Google Sitelinks คืออะไร? อยากให้คนเข้าเว็บมากขึ้นต้องอ่าน
เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ น่าจะเคยเสิร์ชหาข้อมูลบน Google แล้วเห็นว่าเว็บไซต์ที่ขึ้นมาแสดงบางครั้งมีเมนูต่างๆ (Sitelinks) เพิ่มขึ้นมาให้คลิกด้วย ดูโดดเด่นและมีความน่าสนใจ อยากจะมีบ้าง บทความนี้มีคำตอบสำหรับคุณ
Sitelinks คืออะไร?
Sitelinks คือ ลิงก์ หรือเมนูต่างๆ ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ภายใต้ Domain เดียวกับเรา ซึ่งจะแสดงอยู่ภายใต้ Title และ Meta Description เวลาเราเสิร์ชหาข้อมูลบน Google โดยส่วนใหญ่แล้ว Sitelinks จะแสดงเมื่อเราค้นหาด้วย Keyword ที่เป็น ชื่อแบรนด์ หรือชื่อเว็บไซต์
ซึ่งเมนูที่จะถูกนำมาแสดงบนผลการค้นหา อัลกอริทึมของ Google จะเป็นคนเลือกเอง เจ้าของเว็บไม่สามารถเลือกได้ แต่เราสามารถกำหนดได้ว่าไม่อยากให้ลิงก์ไหนถูกนำไปแสดงเป็น Sitelinks
ข้อดีของการมี Sitelinks
เมื่อเว็บไซต์ของเรามีการแสดงผล Sitelinks สิ่งแรกที่เราจะเห็นเลยคือพื้นในการแสดงข้อมูลเพิ่มขึ้น เพราะมีเมนูต่างๆ เพิ่มขึ้นมา ทำให้คนที่เสิร์ชสามารถเลือกคลิกเข้าชมหน้าอื่นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นผลลัพธ์ที่ตามมาอีกคือ..
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิก (CTR) ให้สูงขึ้น
- เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
- เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้า บริการต่างๆ
- สร้างความน่าเชื่อถือ และความน่าสนใจให้กับแบรนด์
นอกจากนี้การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้มีการโอกาสแสดง Sitelinks เรายังใช้วิธีและหลักการเดียวกันกับการทำ SEO ด้วยทำให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับได้ดียิ่งขึ้น
ประเภทของ Sitelinks
-
Organic Sitelinks
Sitelinks แบบทั่วไปจะรองรับการเสิร์ช Keyword ที่เป็นชื่อแบรนด์ หรือชื่อเว็บไซต์โดยตรง โดยส่วนใหญ่ Sitelinks ประเภทนี้จะแสดงให้กับเว็บไซต์ที่อยู่อันดับ 1 บน Google เท่านั้น และแสดงผลได้มากที่สุดถึง 6 ลิงก์
หากลูกค้าของคุณเสิร์ชชื่อแบรนด์บน Google โดยตรง Sitelinks เหล่านี้ก็จะช่วยให้ลูกค้าคลิกเพื่อเข้าไปที่หน้าที่เขาต้องการได้ทันที ช่วยเพิ่ม Organic Traffic ได้เป็นอย่างดี
-
One-line sitelinks
Sitelinks ที่แสดงลิงก์เมนูแบบบรรทัดเดียว โดยจะแสดงอยู่ใต้ Title และ Description Sitelinks ประเภทนี้สามารถแสดงขึ้นมาได้โดยไม่จำเป็นต้องค้นหาด้วยชื่อแบรนด์ หรืออันดับ 1 เท่านั้น สามารถแสดงได้มากสุดถึง 4 ลิงก์
แม้ว่าจะมีขนาดการแสดงผมที่เล็กกว่าแบบ Organic Sitelinks แต่ก็ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมให้เว็บไซต์ได้มากเช่นกัน
-
Sitelinks search box
เป็น Sitelinks ที่จะแสดงช่องค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ตั้งแต่ตั้งแต่หน้าผลการค้นหาบน Google ช่วยให้ลูกค้าสามารถเสิร์ชหาข้อมูล หรือสินค้าที่ต้องการบนเว็บไซต์นั้นได้ทันที
แต่ช่องค้นหานี้จะแสดงขึ้นมาเองโดยทีอัลกอริทึมของ Google จะเป็นคนนำขึ้นเอง นั่นหมายความว่าต่อให้เว็บไซต์นั้นทำช่องสำหรับค้นหาข้อมูลก็ไม่ได้แปลว่าจะแสดงช่องเสิร์ชบน Sitelinks ได้ทันที
-
Paid Sitelinks
นอกจาก Sitelinks แบบธรรมชาติที่ Google เป็นคนเลือกแสดงแล้ว หากเว็บไซต์ของคุณทำโฆษณา Google ก็สามารถสร้าง Extension Sitelinks เลือกเมนู หรือหน้าที่คุณต้องการแสดงบนโฆษณาได้ด้วยตัวเอง
วิธีปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีโอกาสแสดง Sitelinks
ต้องบอกก่อนว่าทาง Google นั้นไม่มีเครื่องมือในการสร้าง หรือข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าเราควรทำอย่างไรจึงจะสร้าง Sitelinks ให้เว็บไซต์แบบ 100% แต่เราจะใช้เทคนิคในการปรับโครงสร้างเว็บไซต์แทน เพื่อให้ Bot Google สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้ง่าย ซึ่งการปรับเว็บไซต์ต่างๆ นี้เองยังช่วยในเรื่องของ SEO อีกด้วย
1. วางโครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) ให้ง่ายต่อการค้นหา
Sitemap หรือแผนผังเว็บไซต์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กำหนดได้ว่าเว็บไซต์ของเราสามารถเข้ามาใช้งานได้ง่ายหรือไม่ คนที่เข้ามาในเว็บไซต์จะหาข้อมูลสินค้า หรือบริการหน้าอื่นๆ เจอรึป่าว หากเรามีการวางแผนทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ก็จะช่วยให้ Bot Google เก็บเว็บไซต์คุยได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. ส่ง Sitemap ให้กับ Google
โดยทั่วไปแล้ว Bot Google จะมีการค้นหา เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บไซต์อยู่เรื่อยๆ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ถ้าคุณต้องการเรียก Bot Google ให้เข้ามาเก็บข้อมูลเร็วยิ่งขึ้น คุณก็สามารถทำได้โดยส่ง Submit URL ใน Google Search Console ครับ
3. ให้ความสำคัญกับการทำ Internal Link
Internal Link ถือเป็นเทคนิคที่ช่วยสร้าง Traffic ภายในเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี หากเราสร้างลิงก์เหล่านี้เชื่อมโยงไปยังสินค้า หรือบริการหลักก็จะช่วยให้ Google มีแนวโน้มที่จะทำหน้านั้นเป็น Sitelinks มากขึ้น
4. ระวังการตั้งชื่อหัวข้อหน้าเพจซ้ำกัน
Heading 1 / Title Tag (หัวข้อหน้าเพจ) ถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับการทำ SEO อย่างหนึ่ง การเขียนควรเขียนให้สอดคล้องกับ Keyword และน่าสนใจ ดึงดูดให้คนคลิก
แต่สิ่งที่เราพบเห็นบ่อยๆ คือหลายคนที่ทำเว็บไซต์มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับหัวข้อหน้าเพจเท่าไหร่ ตั้งชื่อชั่วคราวสั้นๆ หรือใช้คำที่ซ้ำกันไปก่อนให้หน้านั้นเสร็จเร็วที่สุด ปัญหานี้จะพบได้มากกับเว็บไซต์ E-Commerce ที่มีชื่อสินค้าคล้ายๆ กัน
การตั้งชื่อ Title เหมือนกันอาจส่งผลให้ Google สับสน และนำทั้ง 2 หน้าที่มีชื่อเหมือนกันไปจัดทำ Sitelinks ด้วย เมื่อลูกค้าเสิร์ชมาเจอก็อาจสร้างความสับสนให้กบลูกค้าได้อีกด้วยเช่นกัน
5. ปรับแต่งหน้าเพจด้วยเทคนิค SEO
การ SEO นอกจากจะปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ ทำให้ติดอันดับ และได้จำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ยังช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีประโยชน์กับคนที่ค้นหาบน Google อีกด้วย จึงทำให้ Google มีโอกาสนำหน้าติดอันดับสูงๆ มาจัดทำ Sitelinks มากขึ้น
Get Start !
ถ้าคุณอยากให้เว็บไซต์มีโอกาสแสดง Sitelinks สามารถทำตาม 5 วิธีที่ผมแนะนำในได้เลย
- วางโครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) ให้ง่ายต่อการค้นหา
- ส่ง Sitemap ให้กับ Google
- ให้ความสำคัญกับการทำ Internal Link
- ระวังการตั้งชื่อหัวข้อหน้าเพจซ้ำกัน (สำคัญ)
- ปรับแต่งหน้าเพจด้วยเทคนิค SEO
หากคุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามนี้ครบถ้วน ไม่เพียงแต่จะมีโอกาสแสดง Sitelinks แต่คุณยังได้โอกาสในการติดอันดับบน Google สูงยิ่งขึ้นด้วย
สร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรก Google เพิ่มผู้ชม และยอดขายบนเว็บไซต์ด้วยบริการ SEO ของเราให้ธุรกิจคุณเหนือกว่าคู่แข่ง