เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ เพิ่ม Conversion โฆษณา Google
หลังจากที่คุณได้ทำโฆษณา Google Ads ออกไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำก็คือ การทำเว็บไซต์ หรือ Landing Page ให้น่าใช้ พร้อมต้อนรับลูกค้าที่เข้ามามากที่สุด เพื่อสร้างผลกำไรจาก โฆษณา Google ได้มากยิ่งขึ้น
เราได้ลิสต์เทคนิคการปรับหน้าเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มคอนเวอร์ชั่นให้โฆษณา Google มาให้คุณแล้วค่ะ
การออกแบบหน้าเว็บไซต์
ความประทับใจแรกของผู้ใช้งาน เมื่อคลิกเข้ามาที่หน้าเว็บก็คือการ ออกแบบเว็บไซต์ ใช่มั้ยคะ?
จึงควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีการ ออกแบบเว็บไซต์และจัดโครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) ที่น่าสนใจและใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่เข้ามาในเว็บไซต์แล้วหรือยัง
เริ่มจากการเช็คให้แน่ใจว่าข้อมูลสำคัญอย่างเช่น ช่องทางการติดต่อ ปุ่ม CTA อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นง่ายมั้ย และผู้เข้าชมเว็บเขาแปลกันเข้าใจหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งการเข้ามาทดลองใช้เว็บไซต์ มันมีประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งานหรือเปล่า หาเมนู หาข้อมูลที่ต้องการยากมั้ย เมื่อทราบจุดที่ต้องแก้ไขก็ต้องจัดการปรับเลยทันที
เพิ่มความเร็วของหน้าเว็บไซต์
การที่หน้าเว็บไซต์สามารถโหลดได้รวดเร็ว มีผลต่อการได้ conversion เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ ลองคิดดูว่าถ้าเข้ามาในเว็บไซต์แล้วเกิดโหลดช้ามาก ๆ ก็จะหงุดหงิดจนต้องปิดหน้านั้นไปเลย
เราเลยอยากแนะนำให้วัดความเร็วเว็บไซต์และปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเร็วในการโหลดที่มากเพียงพอต่อการแสดงข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ค่ะ โดยอาจจะใช้เทคนิคต่าง ๆ มาช่วย อย่างง่ายเลยก็คือ การลดขนาดรูปภาพ หรือเปลี่ยนมาใช้ไฟล์รูป .webp ดูค่ะ
ระบบเว็บไซต์เป็น Responsive
เช็คให้แน่ใจว่าเว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ถูกต้อง สวยงามบนอุปกรณ์อื่น ๆ นอกจากหน้าจอ PC หรือที่เรียกกันว่า เว็บไซต์ Responsive นั่นเองค่ะ เมื่อเว็บไซต์ของคุณยังคงสวย ให้ข้อมูลครบบนทุกอุปกรณ์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่มาจากโฆษณา Google กลับมาอีกครั้ง และอาจเป็นลูกค้าของคุณในที่สุด
สร้าง Content ที่เกี่ยวข้อง
ในตัวเว็บไซต์ หรือหน้า Landing Page ควรสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ และเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เว็บไซต์ขายรองเท้ากีฬา ก็ควรมีคอนเทนต์ข่าวกีฬา แหล่งออกกำลังกาย หรือเทคนิคการเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ
หากบนเว็บไซต์มีข้อมูลที่มีประโยชน์และตรงกับความสนใจของคนที่คลิกมาจากโฆษณา Google Ads ก็มีโอกาสสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์และอาจตัดสินใจซื้อได้
ใช้ Call-to-Action (CTA)
บนหน้าเว็บไซต์ของคุณที่ใช้ขึ้นโฆษณา ควรแสดง ปุ่ม CTA หรือปุ่มกระตุ้นความสนใจที่โดดเด่น ทั้งข้อความสีปุ่มและตำแหน่งที่ชัดเจน เตะตา มันจะช่วยให้คนที่เข้ามาในเว็บไซต์รู้ว่า เมื่อเข้ามาถึงหน้านี้แล้วต้องทำอะไรต่อไป อย่างเช่น คลิกโฆษณากระเป๋าที่มีโปรโมชั่นลด50% เมื่อเข้ามาแล้วก็เจอกับแบนเนอร์ลดราคา พร้อมปุ่ม Buy now ทันที
ดูผลลัพธ์ โฆษณา Google จากเครื่องมือ Tracking
ก่อนที่จะขึ้นโฆษณา Google Ads ทุกคนก็คงจะติดตั้ง Google Analytics ไว้ที่เว็บไซต์กันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ ซึ่ง Google Analytics นี้จะติดตามเก็บพฤติกรรมของผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ตลอดเวลา เช่น เข้าหน้าไหนมากที่สุด เข้าดูสินค้าไหนมากที่สุด คลิกเข้ามาจากการค้นหา keyword ไหนมากที่สุด แล้วก็สามารถนำข้อมูลตรงนี้มาปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสม และวางแผนการทำโฆษณาต่อไปได้
อย่าลืมทำ SEO
แม้จะทำโฆษณา Google Ads อยู่ เราอยากให้คุณพยายามเรียนรู้และปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ด้วยนะคะ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณถูกค้นหาเจอในหน้า Google โดยธรรมชาติ มีเนื้อหาที่เหมาะสมกับคำค้นหา (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณและเกี่ยวข้องกับ Ad Text ที่ลูกค้าได้คลิกเข้ามาด้วย
รู้แล้วลองเลย!
การเพิ่ม Conversion ในเว็บไซต์ ไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ทำครั้งเดียวจบนะคะ แต่คุณจะต้องติดตามผลลัพธ์และหมั่นปรับปรุงเว็บไซต์ไปพร้อม ๆ กับการปรับปรุงโฆษณา Google อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โฆษณามีประสิทธิภาพมากที่สุด คุ้มค่าในการลงทุนมากที่สุด
หากคุณไม่มั่นใจ หรืออยากหาที่ปรึกษา MakeWebEasy มี บริการ ทำ Google Ads เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในธุรกิจออนไลน์ของคุณระยะยาวด้วยนะคะ