SEO
SEO

วิธีทำ SEO หน้าสินค้าให้ติดอันดับบน Google

การทำ SEO เพื่อสร้างยอดขายที่แท้จริงไม่ใช้การโฟกัสแค่หน้าแรกของเว็บไซต์เท่านั้น แต่เราควรให้ความสำคัญกับ SEO ในทุกๆ หน้า โดยเฉพาะหน้าที่สามารถสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างหน้าเพจ สินค้า 

หากเราสามารถทำให้หน้าสินค้าติดอันดับ Google ได้โดยตรง ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสการขายให้กับธุรกิจได้อย่างมาก

มาดูกันว่าถ้าเราอยากทำให้หน้าสินค้าของเราติดบนหน้า Google ควรปรับแต่งหน้าเพจนี้อย่างไรบ้าง

 

1. ปรับแต่ง URL ให้เป็นมิตร

เรื่องง่ายๆ และส่วนหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไปเลยคือการทำ URL ให้เป็นมิตร (Friendly URL) หรือการทำให้ลิงก์ของเราเหมาะกับการใช้งาน หลายคนที่ทำเว็บไซตื E-Commerce ลงข้อมูลสินค้า ใส่ชื่อ ราคา รายละเอียดสินค้าเรียบร้อยก็พร้อมขายทันที แต่กลับลืมสิ่งสำคัญไปอย่างการปรับแต่ง URL

ลองกลับไปตรวจสอบดูว่า URL หน้าสินค้าของคุณมีการปรับแต่งให้เข้าใจง่ายๆ แล้วหรือยัง

ข้อดีของการทำ URL ให้เป็นมิตร

  1. ช่วยให้ Search Engine สามารถเก็บข้อมูลหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น (เป้าหมายหลัก)
  2. ช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย
  3. ช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์จดจำ URL ของเราได้ (มีส่วนน้อยที่จะจำกัน แต่ก็มี)
  4. เหมาะแก่การแชร์ หรือส่งต่อให้คนอื่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

หลักสร้างทำ Friendly URL แบบเข้าใจง่าย

  • ทำให้สั้น กระชับ สื่อความหมายได้โดยตรง
  • ใช้เครื่องหมาย “ – ” ในการแบ่งส่วนต่างๆ ของ URL
  • หากเป็นภาษาอังกฤษให้เลือกใช้เฉพาะตัวพิมพ์เล็ก
  • หากเป็นภาษาอังกฤษให้หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เป็น “a” “an” หรือ “the” ใน URL
  • ใส่คุณสมบัติสินค้าเข้าไปใน URL ด้วยเช่น ชื่อแบรนด์, สี และขนาด

 

2. ตั้งชื่อสินค้าให้รองรับการค้นหา

หัวใจสำคัญที่สุดในการทำ SEO ในหน้าสินค้าคือ การตั้งชื่อสินค้า ซึ่งมันจะเป็นตัวกำหนดเลยว่าสินค้าของคุณจะติดอันดับใน Keyword อะไรบนหน้า Google

หลักการตั้งชื่อสินค้าที่ดีสุดที่สุดจะมีดังนี้

  1. Keyword (คำค้นหา) : เป็นตัวกำหนดว่าเราต้องการให้สินค้าชิ้นนี้ติดอันดับ Keyword อะไร
  2. คุณสมบัติต่างๆ (ชื่อแบรนด์, สี, ขนาด เป็นต้น) : เพื่อให้หน้าสินค้ารองรับการค้นหาแบบ Long tail keywords หรือการค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
  3. จำนวนที่เหมาะสมกับการตั้งชื่อจะอยู่ที่ 60 ตัวอักษร : เพื่อไม่ให้ชื่อสินค้าที่แสดงอยู่บน Google Shopping Tab หรือ Google Shopping Ads ถูกตัดออกไป

 

วิธีการเลือก Keyword สำหรับตั้งชื่อสินค้า (แบบง่ายๆ)

Keyword ที่เราจะนำมาใช้ในการตั้งชื่อสินค้า สำคัญคือ คำๆ นั้นต้องมีคนใช้ค้นหาจริง ผมมีเครื่องมือที่ใช้สำหรับหา Keyword แบบง่ายๆ อยู่ 2 เครื่องมือด้วยกันคือ

1.Google Trends – เครื่องมือฟรีจาก Google ที่เราสามารถดูได้ว่า ณ ตอนนี้มี Keyword อะไรที่กำลังเป็นกระแส รวมถึงเปรียบเทียบได้ว่า Keyword คำไหนที่มี คนเสิร์ชมากกว่ากัน

 

2.Ubersuggest – เครื่องมือทำ SEO ที่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรี ซึ่งเราสามารถเช็คปริมาณการค้นหาของแต่ละ Keyword ได้ง่ายๆ มีความละเอียดมากกว่า Google Trends

ตัวฟรีจะสามารถใช้วิเคราะห์ Keyword ได้วันละ 5 ครั้ง หากคุณเป็นคนที่ตั้งใจจะทำ SEO จริงๆ สามารถซื้อแพ็กเกจแบบ Lifetime หรือถาวรได้ ถือเป็นเครื่องมือ SEO ที่มีราคาถูก และคุ้มที่สุด (บอกต่อในฐานะที่เป็นผู้ใช้จริง ไม่ใช่สปอนเซอร์จ้า 5555+)

 

**เมื่อเราได้ Keyword มาตั้งชื่อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทำจนติดอันดับ ผมแนะนำว่าไม่ควรเปลี่ยน เพราะมันอาจส่งผลให้อันดับหน้านั้นตกลงได้นั่นเอง หากต้องการให้ติดอันดับใน Keyword อื่นๆ เพิ่มเติม ให้เราโฟกัสที่การใส่คำอธิบายสินค้าแทน

 

3. การใส่คำอธิบายสินค้า

คำอธิบายสินค้าคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หน้าเพจของเรามีโอกาสติดอันดับบน Google มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการเพิ่มโอกาสปิดการขายให้เว็บไซต์อีกด้วย 

หลักในการใส่คำอธิบายสินค้าที่ผมแนะนำมีดังนี้

1. มี Keyword แทรกอยู่คำอธิบายสินค้า

เช่นเดียวกับการตั้งชื่อสินค้า คำอธิบายเองก็ควรมี Keyword แทรกอยู่ด้วยเช่นกัน หากเรามี Keyword อื่นๆ นอกเหนือจากคำหลักที่เราใช้ตั้งชื่อสินค้า เราก็สามารถนำมาแทรกอยู่ในคำอธิบายแทนเพื่อให้หน้าสินค้านั้นมีโอกาสติดอันดับ Keyword อื่นๆ ได้เพิ่มเติมนั่นเอง

2. ควรมีเนื้อหาไม่ตำกว่า 300 คำ

นอกจากนี้การเขียนคำอธิบายแบบละเอียด หรือจำนวนคำมากๆ ยังช่วยให้เราสามารถแทรก Keyword ลงในคำอธิบายสินค้าได้มากขึ้นด้วย

3. หลีกเลี่ยงการใช้คำอธิบายซ้ำกัน

เข้าใจว่าสินค้าบางชิ้นอาจมีคุณสมบัติที่คล้ายกันมาก ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกัน แต่เมื่อสินค้านั้นเป็นคนละชิ้นกัน หรืออยู่กันคนละหน้าเพจเราก็ไม่ควรใช้คำอธิบายเหมือนกัน ให้พยายามใส่รายละเอียดที่บอกถึงความแตกต่างของสินค้าชิ้นนั้นเข้าไปเพิ่มเติมด้วย ตัวอย่างเช่น

สินค้า A : สินค้าร่มพับ 3 ตอน สีรุ้ง

  • สำหรับกันฝน กันแดด ป้องกัน UV
  • โครงร่มไฟเบอร์ แข็งแรงทนทาน ต้านลมแรงได้ดี อายุการใช้งานยาว
  • เหมาะสำหรับใช้เป็นพร็อพในการถ่ายภาพในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานปีใหม่ งานรับปริญญา ถ่ายพรี Pre Wedding ช่วยให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูมีสีสัน และชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

สินค้า B : สินค้าร่มพับ 3 ตอน สีดำ

  • สำหรับกันฝน กันแดด ป้องกัน UV
  • โครงร่มไฟเบอร์ แข็งแรงทนทาน ต้านลมแรงได้ดี อายุการใช้งานยาว
  • ร่มสีดำสนิดให้คนที่ใช้งานมีภาพลักษณ์ดูสุขุม สุภาพ เหมาะกับผู้ชาย หรือคนที่ไม่ชอบร่มที่มีสีฉูดฉาดจนเกินไป

 

 

4. ใช้ภาพประกอบสินค้า

การใส่ภาพประกอบในคำอธิบาย ไม่เพียงช่วยในเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าของเราเห็นภาพชัดเจน และตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่นภาพสินค้าในมุมต่างๆ หรือตัวอย่างการใช้งาน เป็นต้น

ในมุมของการทำ SEO Google ยังมองว่าเนื้อหาที่มีภาพประกอบจะช่วยให้ผู้ชมเว็บไซต์ หรือลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ได้รับคะแนน SEO ด้วยนั่นเอง

นอกจากนี้เรายังสามารถทำ SEO ให้กับภาพประกอบของเราได้ด้วยโดยการใส่ Alt Text หรือการใส่คำอธิบายให้กับรูปภาพ เพิ่มโอกาสให้ภาพประกอบสินค้าของเรามีโอกาสติดอันดับบนหน้า Google Image Search ช่วยสร้าง Traffic และลูกค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง

 

5. เลือก Heading Tag ให้เหมาะสม

การจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาจะช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ อ่าน และทำความใจกับสินค้าของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการที่เราอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่มีการจัดวางบท หัวข้อใหญ่ เล็กไว้เป็นอย่างดี ก็ทำให้เราสามารถอ่าน และทำความเข้าใจหัวข้อต่างๆ ได้ง่าย

“แต่การจัดลำดับเนื้อหาบนเว็บไซต์ไม่ใช่การทำหัวข้อให้ใหญ่ และหนาขึ้น”

แต่เราควรใช้ Heading Tag ให้เหมาะสมกับแต่ละ หน้าที่ของมันไม่ใช่แค่ทำให้หัวข้อนั้นเด่นขึ้นมาอย่างเดียว แต่จะเป็นการติดโค้ดสำหรับกำหนดหัวข้อไว้อีกด้วย ให้ Bot ของ Google ที่เข้ามาเก็บข้อมูลทราบว่า อะไรคือหัวข้อหลัก หัวข้อรอง และเนื้อหา

นอกจากนี้ การใส่ Keyword ไว้ในหัวข้อที่เป็น Heading Tag ยังช่วยให้ Google โฟกัส Keyword ได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสติดอันดับให้กับหน้าสินค้าของเรา


 

6. ปรับแต่ง Meta Title และ Description

Meta Title และ Description เป็นข้อความที่จะแสดงอยู่บนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อมีคนเสิร์ช Keyword เพื่อค้นหาข้อมูล

การเขียนข้อความที่ดีควรเขียนข้อความที่แสดงจุดเด่นสินค้า ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือสินค้าของเราแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ยังไง หากเราเขียนข้อความให้มีความน่าสนใจ ดึงดูด ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสคลิกให้กับเว็บไซต์ของเรา

ที่สำคัญควรใส่ Keyword ลงไปใน Title และ Description ด้วย เพราะการใส่ Keyword ใน Title นั้นจะมีผลต่ออันดับ SEO โดยตรง ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือการเขียนไว้ที่ส่วนหน้าสุดของข้อความ

Keyword ที่อยู่ในส่วนของ Description นั้นจะเป็นการเน้นคำเพื่อให้คนเสิร์ชสามารถสังเกตุได้ง่ายยิ่งขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่า Google นั้นอาจกลับมาให้ความสำคัญของการใส่ Keyword ในส่วนนี้อีกครั้ง

 

Get Start !

หากทุกคนทำตามได้ครบถ้วนทุกข้อรับรองได้ว่าจะช่วยให้ทุกคนทำ SEO หน้าเพจสินค้า ให้ติดอันดับบน Google ได้อย่างแน่นอน

  • ปรับแต่ง URL ให้เหมาะกับการใช้งาน และง่ายต่อการให้ Google เข้าไปเก็บข้อมูล
  • ตั้งชื่อสินค้าให้รองรับการค้นหาด้วยการใส่ Keyword
  • ใส่คำอธิบายสินค้าให้ครบถ้วน ชัดเจน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า ที่สำคัญต้องไม่ลืมใส่ Keyword เข้าไปด้วย เพื่อเพิ่มให้หน้าสินค้ามีโอกาสติดอันดับมากขึ้น
  • ลองใส่ภาพประกอบสินค้าเข้าไปด้วยเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นสินค้า และตัวอย่างการใช้งาน พร้อมทำให้สินค้าของคุณมีโอกาสติดอันดับในหน้า Google Image Search ด้วย
  • อย่าลืมจัดลับดับความสำคัญของเนื้อหาด้วยการใส่ Heading Tag ให้ถูกต้อง เพื่อให้ Google เก็บข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ปิดท้ายด้วยการเขียน Meta Title และ Description ให้หน้าสนใจพร้อมแทรก Keyword

แบบจัดเต็มเนื้อหาสามารถอ่านเพิ่มเติมที่นี่ : SEO คือ อะไร? วิธีการทำ SEO ให้ปัง อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ต้องรู้

สร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรก Google เพิ่มผู้ชม และยอดขายบนเว็บไซต์ด้วย บริการรับทำ SEO ของเราให้ธุรกิจคุณเหนือกว่าคู่แข่ง